วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

สุนัขไทยพันธุ์ บางแก้ว

ประวัติความเป็นมาของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว 



                                                                              
         จากข้อมูล ที่ได้สอบถามจากประชาชนตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านบางแก้ว ต.บางแก้ว บ้านชุมแสงสงคราม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พอจะสรุปได้ว่า แหล่งกำเนิดของ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว นั้นอยู่ที่ วัดบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ. พิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่ว ๆ ไปนั้นยังคงเป็น ป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเหมาะสำหรับ เป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ชุกชุม เช่นช้างป่าเป็นโขลง ๆ หมูป่า ไก่ป่า สุนัขจิ้งจอก และหมาใน หลวงพ่อมาก เมธาวี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดบางแก้ว ที่วัดของท่านเลี้ยง สุนัขไว้ไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุนัขที่ดุขึ้นชื่อลือชา และชาวบ้านทราบกันดีว่า ใครที่เข้ามาในวัดแต่ละ ครั้งจะต้องตะโกนให้เสียงแต่ไกล ๆ เพื่อให้พระอาจารย์มาก เมธาวี ท่านช่วยดูหมาเอาไว้ก่อน มิฉะนั้นจะถูกมันไล่กัด ด้วยกิติศักดิ์ในความดุของ สุนัขที่ วัดบางแก้วนี้เองจึงมีผู้คนนิยมมาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงไว้ เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เฝ้าเรือ เฝ้าแพ เฝ้าวัว เฝ้าควาย พื้นที่ ๆ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้ขยายพันธุ์ไป มากที่สุดก็คือ ต.บางแก้ว ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แต่ในปัจจุบันได้ขยายวงกว้างออกไป หลายจังหวัด เหตุผลที่สันนิษฐานว่า สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขลูกผสมสามสายเลือด พื้นที่ในเขต ต.บางแก้ว ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ ในอดีตนั้นเป็นป่าดง พงพีที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย สัตว์ป่านานาชนิดรวม ทั้งสุนัขจิ้งจอก และหมาในอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โอกาสที่สุนัขจิ้กจอกและหมาในตัวผู้จะมาแอบ ลักลอบเข้ามาผสมพันธุ์กับสุนัขไทยตัวเมียที่เลี้ยงไว้ในวัดบางแก้วนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียวเพราะสุนัขป่าทั้งหลายนี้เป็นสุนัขที่กล้าหาญชาญชัย ว่องไว ใจปราดเปรียว แข็งแรง เมื่อมีการผสมข้ามพันธุ์กันตามธรรมชาติ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว มีลักษณะดีเด่นปรากฏโฉมออกมาคือ มีขนยาว ขนมี ลักษณะเป็นขนสองชั้นคล้ายอานม้า หางเป็นพวงสวยงาม มีขนแผงคอคล้ายแผงคอสิงโต ดุ เฉลียวฉลาด มีไอคิวสูง ไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ ปู่เทือง คงเจริญ เป็นบุคคลสำคัญที่ร่วมอนุรักษ์ พัฒนา สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ปู่เทือง คงเจริญ เป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่มาก เมธาวี ท่านมีบารมีมาก สามารถสะกดรอยตามเท้าสัตว์ได้ สมัยก่อนเดินทางด้วยม้า แล้วมีโจรมาขโมยม้าของหลวงปู่ หลวงปู่มาก ก็ใช้คาถาสะกดรอยตามเท้าสัตว์ จากนั้นไม่กี่วัน ก็ได้ม้ากลับคืนมา หลวงปู่มาก เป็นพระที่มีเมตตาต่อสัตว์ ท่านเลี้ยงสัตว์เป็นจำนวนมาก รวมถึง หมาบางแก้ว ที่เป็นหมาที่มีคุณค่า หลังจากนั้น ปู่เทือง ก็ ได้นำหมาบางแก้วมาเลี้ยงไว้ที่หมู่บ้านชุมแสงสงคราม จ.พิษณุโลก และมีการพัฒนาพันธุ์และเผยแพร่ ปู่เทือง คงเจริญเป็นผู้บุกเบิก

มาตรฐานสายพันธุ์สุนัขพันธุ์บางแก้ว


        มีขนปุยยาว มีความสง่างาม ว่องไวและแข็งแรง เวลายืนมักเชิดหน้าและโก่งคอคล้ายม้า เป็นสุนัขขนาดกลาง รูปทรงตั้งแต่ช่วงขาหน้าถึงขาหลังเป็นสี่ เหลี่ยมจัตุรัส อกกว้างและลึกได้ระดับกับข้อศอก ไหล่กว้าง ท้องไม่คอดกิ่ว หน้าแหลม หูเล็ก หางพวง ขนมีสองชั้น นิสัยรักเจ้าของ ฉลาดปราดเปรียว กล้าหาญ ค่อนข้างดุ สามารถฝึกหัดได้ ชอบเล่นน้ำมาก ขนาดเท่าสุนัขไทยทั่วไป หรือเล็กกว่าเล็กน้อย ไม่อ้วน ความสูงวัดที่ไหล่ ตัวผู้พ่อพันธุ์สูง 42-53 เซนติเมตร ตัวเมียแม่พันธุ์ 38-48 เซนติเมตร น้ำหนักตัวผู้ 14-16 กิโลกรัม ตัวเมีย 13-15 กิโลกรัม ลำตัว ช่วงตัวตอนหน้าใหญ่ ช่วงตัวตอนท้ายค่อน ข้างเล็ก ลำตัวหนาปานกลาง อกลึกปานกลาง อกแคบ ยืดอกเวลายืน ส่วนเอวจะคอดน้อยกว่าหมาไทย ท้ายลาด สง่าเหมือนสุนัขจิ้งจอก ส่วนขา ขาหน้าจะ ใหญ่กว่าขาหลัง เล็กน้อย ขาส่วนบนใหญ่และเรียวลงมาถึงข้อเท้า ตั้งตรงแข็งแรง ถ้าดูด้านข้างจะเห็นขนยาวเป็นเส้นตรงจากข้อเท้าด้าน หลังขึ้นไปถึงข้อศอกเหมือนขาสิงห์ ขาหลังช่วงล่างมีทั้งตั้งตรงและเกือบตรง ช่วงบนด้านหลังจะมีขนยาว เป็นเส้นตรงขึ้นไปจนถึงโคนหาง เวลายืนท่า ปกติจะรับ น้ำหนักทรงตัวดี นิ้วเรียงชิดกัน ขนที่ปลายนิ้วยาวหุ้มเล็บ หัว กะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม คอยาวกว่าหมาไทยทั่วไป กะโหลกศีรษะและ ปากรับกันเป็น รูปสามเหลี่ยม หูเล็กสั้น ตั้งป้องไปข้างหน้า ปลายหูเบนไปข้างๆ เล็กน้อย โคนหูทั้งสองอยู่ห่างกันมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่น ๆ จึงใช้เป็นจุดเด่น ในการสังเกตว่าเป็นสุนัขบางแก้ว ภายในหูมีขนปรายปิดรูหูอย่างสีดำมีแววของความไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ขณะโกรธหรือขู่จะขึ้นแววฟ้า ใสแววที่เรียกกันว่า ตาเขียว จมูก สีดำ ฟันซี่เล็กข่าวคม มีเขี้ยวข้างบน 2 ล่าง 2 ลิ้นเป็นสีชมพู ส่วนมากไม่มีปานดำเหมือนสุนัขไทยทั่วไป ขนสองชั้น หนา ชั้นล่างละเอียด อ่อนนิ่ม ขนชั้นบนยาวเป็นเส้น เมื่อยังเล็กจะมีขนยาวปุกปุยแน่นทั่วตัว แต่เมื่อโตขึ้นจะมีขนยาวปานกลางแน่นทั้งตัว ขนที่กลางหลังตั้งแต่แผงคอไปยัง โคนหางจะ ยาวกว่าขนบริเวณอื่น ๆ มีแผงขนเป็นชั้นช่วงสันหลัง เวลาโกรธจะฟูยกให้เห็นชัดเจน ด้านล่างจากข้อเท้าตอนล่างถึงโคนขาตอนบนจะมี ขนยาวฟูพอ ประมาณ หางต้องเป็นพวง ถือเป็นลักษณะเด่นที่สืบทอดมาจากสุนัขจิ้งจอกลักษณะพวงหางแบ่งออกเป็น 3 พวกใหญ่ ๆ คือ
1. หางตั้งโค้ง ไปข้างหน้า บางตัวหางจะเหยียดตรงวางทาบไปบนหลัง
2. หางพุ่งไปด้านหลังแล้วโค้งตั้งขึ้นเหมือนหางดาบ ถ้าหางยาวจะโค้งมาจรดหลัง ถ้ายาวมากจะเบี่ยงลงข้าง ถ้าหางพวงใหญ่มีน้ำหนักมาก หางจะไพล่ ห้อยลงข้างตัว หางชนิดนี้มีอยู่มาก โดยเฉพาะแถบบ้านชุมแสงสงคราม
3. หางเป็นพวงลาดแบบแทงดิน ยาวห้อยลงอย่างหางม้า เวลาดีใจเมื่อเดินหรือวิ่งจะแกว่งหางไปมา เวลายืนหากมั่นใจว่าปลอดภัย จะยกหางสูงขึ้นเลย ระดับตัวเล็กน้อย นักเลี้ยงสุนัขบางแก้วบางคนจะพูดถึงกิริยาหางนี้ว่า "ขึ้นได้-ลงได้" ลักษณะเช่นนี้เหมือนหมาป่ามาก เรียกว่า หางจิ้งจอก สีของบางแก้ว มีสีหลักคือ สีดำพื้น, สีน้ำตาลพื้น, สีน้ำตาลปรายย้อมดำ(เขียว), สีด่างน้ำตาลขาว, บางตัวนอกจากสีด่างดำขาว หรือสีน้ำตาลขาวยังแทรกจุดหย่อมเล็ก กระจายมากน้อยทั่วทั้งตัวอีกด้วย ส่วนสีที่นิยมคือ ขาวปลอด ขาวน้ำตาล ขาวดำ เสียงเห่า เสียงเห่าแหลมเล็กกว่าสุนัขไทย การเดินวิ่ง เวลาเดินวิ่งจะ เหยาะย่างสง่างามเหมือนม้าย่างเท้าสวนสนามปกติจะวิ่งซอยเท้าถี่




ลักษณะพิเศษของสุนัขบางแก้ว



 1. ลักษณะหน้าเสือ ใบหน้าดูคล้ายเสือ มีกะโหลกศีรษะใหญ่ หน้าผากกว้าง โคนหูตั้งอยู่ห่างกัน หูเล็กแบะออกเล็กน้อย แววตาเซื่องซึม พื้นสีตามักจะเป็นสี เหลืองทองคล้ำ ม่านตาตรงกลางสีดำ มีขนย้อยจากโคนหูด้านล่างเป็นแผงที่คอ เรียกว่า แผงคอ แต่ไม่รอบคอ ขนมีทั้งฟูและไม่ฟู มีหางเป็นพวง ทั้งหาง งอ และหางม้วน แลดูดุร้าย เป็นลักษณะของสุนัขบางแก้วที่ใหญ่ที่สุด
2. ลักษณะหน้าสิงโต มีกะโหลกศีรษะเล็กกว่าลักษณะหน้าเสือ หูเล็กเป็นรูปสามเหลี่ยม ป้องไปข้างหน้ารับกับใบหน้าอย่างสวยงาม ปากไม่เรียวแหลมมาก ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป มีขนยาวตั้งแต่โคนหูลงมาด้านล่าง เป็นแผงรอบคอ และมีขนเป็นเคราจากใต้คางย้อยลงมาเหมือนคอพอกลงมาถึงคอด้านล่าง ที่ บริเวณรอบลำคอมีขนยาวโดยรอบ มีทั้งขนสั้นฟูและฟูยาว เมื่องมองจากดานหน้าจะมีลักษณะคล้ายสิงโต ลักษณะเท้ายาวอูม ขนยาวหุ้มปลายเท้าเล็กน้อย มองดูคล้ายเท้าหมี ขนมีทั้งยาวฟู สั้นฟู หางมีทั้งม้วนสูงและม้วนต่ำ เป็นพวงและไม่เป็นพวง ช่วงตอนหน้าใหญ่ตอนท้ายเล็ก ยามปกติแววตาและท่าทาง เซื่องซึม แต่เมื่อเป็นศัตรูปรือคนแปลกหน้า จะเปลี่ยนเป็นดุร้ายและคล่องแคล่วว่องไวทันที ลักษณะหน้าสิงโตเป็นลักษณะที่หายามาก นาน ๆ จึงจะพบ เห็นสักตัวหนึ่ง
3. ลักษณะหน้าจิ้งจอก มีใบหน้าแหลม หูใหญ่กว่าลักษณะหน้าเสือและหน้าสิงโต ใบหูไม่ตรงโย้ออกด้านข้าง มองดูเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ปากแหลม เรียวและค่อนข้างยาว ขนอ่อนยาวเรียบ ขนหางเป็นพวง รูปร่างมีทั้งใหญ่ กลางและเล็ก อุปนิสัยไม่ค่อยดุร้ายเหมือนสองพวกแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

my photo